'วีรศักดิ์'สั่งกรมเจรจาฯ ชี้ช่องเกษตรกร สินค้าท้องถิ่น บุกตลาดโลกด้วยเอฟทีเอ

      'วีรศักดิ์'มอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าผลักดันเกษตรกร สินค้าท้องถิ่น บุกตลาดโลก โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เหมือนที่ทำสำเร็จกับสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ด้าน ‘อรมน’รับลูก เตรียมลงพื้นช่วงก.ย.-ธ.ค.นี้ เริ่มจากสุราษฎร์ธานี มุกดาหาร นครราชสีมา กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยภูมิและบุรีรัมย์

       นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ว่า ได้มอบนโยบายให้ช่วยผลักดันสินค้าเกษตรและสินค้าท้องถิ่นไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยให้ใช้แนวทางของการใช้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า และมีการลดและยกเลิกภาษีสินค้า เป็นใบเบิกทาง เหมือนกับที่ทำสำเร็จกับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยที่ปัจจุบันสามารถผลักดันออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากการลดภาษีภายใต้เอฟทีเอ และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีแล้ว

        “ขอให้กรมเจรจาฯ เร่งดำเนินการให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของเอฟทีเอแก่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการในท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผลิตสินค้าที่หลากหลาย ใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม และลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งผมจะหาโอกาสร่วมลงพื้นที่พบปะพูดคุยรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและผู้ประกอบการในท้องถิ่นร่วมกับกรมฯ อย่างใกล้ชิดด้วย”นายวีรศักดิ์กล่าว

      นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ พร้อมรับนโยบาย โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่กรมฯ ได้ลงนามความร่วมมือแล้ว เช่น สภาเกษตรกรแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นต้น เพื่อนำเสนอแผนงานให้ความรู้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เพื่อส่งออกสินค้า

          โดยในช่วง 4 เดือนหลังจากนี้ (ก.ย.-ธ.ค.2562) กรมฯ จะลงพื้นที่พบปะหารือ เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์วิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ พร้อมเฟ้นหาสินค้าท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งในเดือนก.ย.2562 จะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เน้นสินค้าผลไม้ อาหารทะเลแปรรูป และจังหวัดมุกดาหาร ที่มีสินค้าเด่น คือ โคเนื้อ เดือนต.ค.2562 พบผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีสินค้านมโคแปรรูป ผ้าไหม และจังหวัดกำแพงเพชร ส่งเสริมกล้วยไข่ เดือนพ.ย.2562 ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ผลักดันผลิตภัณฑ์ข้าว และเดือนธ.ค.2562 มุ่งสู่ภาคอีสานจังหวัดชัยภูมิและบุรีรัมย์ สินค้าผ้าไหมและผลไม้

       นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้กำหนดแผนงานที่จะดำเนินการในปี 2563 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก เช่น โครงการประกวดการจัดทำแผนธุรกิจ DTN Business Plan Awards 2020 และต่อยอดโครงการจัดทัพโคนมไทย บุกตลาดต่างประเทศด้วย FTA เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

Click Donate Support Web