AIS Business ประกาศวิสัยทัศน์ยกระดับสู่ 'ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider'

แสดงศักยภาพของบริษัทในเครือและพันธมิตรชั้นนำด้านไอทีระดับโลก พร้อมเสริมความแข็งแกร่ง จากดิจิทัลโซลูชันส์ที่ออกแบบมาเพื่อภาคธุรกิจและองค์กรทุกกลุ่ม

            เอไอเอส โดย AIS Business แถลงวิสัยทัศน์ และนโยบาย ก้าวสู่การเป็น ‘ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider’ สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าองค์กรทุกขนาด รองรับการเติบโต และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกอุตสาหกรรม จากความแข็งแกร่งของบริษัท และบุคลากรในเครือทั้งหมด อาทิ CS Loxinfo, Teleinfo Media, Rabbit Line Pay ฯลฯ และการผนึกศักยภาพจากพันธมิตรด้านไอทีชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft, G-ABLE, SAP, VMware ฯลฯ พร้อมให้บริการด้าน ICT อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร เพื่อผู้ใช้งานองค์กรทุกกลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ Network, Digital Infrastructures, Cloud, IOT, ICT, Digital Platforms ในรูปแบบของพาร์ทเนอร์และอีโคซิสเต็ม ด้วยมาตรฐานระดับเวิล์ดคลาส พร้อมเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างประโยชน์ให้กับทุกธุรกิจในยุค Digital Transformation เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ แก่เศรษฐกิจไทย

        พร้อมจัดงานสัมมนาและเทคโนโลยีโชว์เคสแห่งปี 'AIS Business: The DIGITAL FUTURE 2019'ร่วมฟังวิสัยทัศน์จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรแนวหน้าของไทยและสากล พร้อมสัมผัส Digital Solutions ที่ใช้งานได้จริง จากหลากหลายอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

      นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า “ในช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่จาก Digital Disruption ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในวิถีชีวิตและทุกอุตสาหกรรม ซึ่งในแง่ขององค์กร นี่คือโอกาสใหม่ครั้งสำคัญที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง Transform องค์กรสู่ Innovation Organization เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

      “เราเชื่อมั่นว่า ยุคนี้องค์กรต้องทำ Business Transformation ใน 2 ด้าน คือ

      1.     ยกระดับการบริหารจัดการองค์กร ใน 3 ส่วน คือ ปรับกระบวนการทำงานหลักให้เป็น Digital (Digitizing Core Processes), ปรับรูปแบบช่องทางการส่งมอบบริการลูกค้าให้เป็น Digital (Digitizing Customer Interface) และ คิดค้นและขยายองค์กรสู่รูปแบบบริการหรือธุรกิจใหม่ๆ (Discovering and Scaling by Digital)

       2.     ยกระดับและให้ความสำคัญกับกระบวนการเพื่อลูกค้า ใน 3 ส่วน คือ เข้าใจ/รู้จักลูกค้าอย่างลึกซึ้งผ่าน Big Data, สร้างสรรค์นวัตกรรมที่แตกต่างตลอดเวลา ด้วย Speed

      “จึงเป็นที่มาของการ transform สู่ Digital Life Service Provider ของเอไอเอส ที่เป็นการปรับทั้งองคาพยพ ไม่ว่าจะเป็น Digital Infrastructure, Digital Service และ Culture Transformation ทำให้วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ส่งเสริม สนับสนุนองค์กรทุกกลุ่มและทุกอุตสาหกรรมให้ยกระดับไปอีกขั้นจาก Ecosystem ในโลกดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากแนวคิด “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider”

     ด้านนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เปิดเผยว่า “วันนี้ เอไอเอสมีความพร้อมอย่างยิ่งทั้งในด้านเครือข่าย และเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่พร้อมจะก้าวสู่การเป็น “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider” ที่อยู่เคียงข้างองค์กรธุรกิจ ภายใต้แบรนด์ AIS Business ตามเจตนารมย์ของบริษัทที่มุ่งมั่นตั้งใจนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงทีมงานบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี มาสนับสนุนภาคธุรกิจและองค์กรของไทยให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นจากขีดความสามารถด้านโครงข่าย Digital Infrastructures ที่ทรงประสิทธิภาพเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ได้แก่

-         เครือข่าย Mobile : เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศ รวมทั้งมีคลื่นความถี่หลักในการให้บริการ 4G มากที่สุด

-         เครือข่าย Fixed Broadband : เอไอเอส ไฟเบอร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติกแท้รายแรกในประเทศ ครอบคลุมแล้วกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ

-         เครือข่าย IoT : เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีทั้งโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย

       รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยี และ Digital Services ทั้งที่จากการ Synergy ความแข็งแกร่งของบริษัทและบุคลากรในเครือทั้งหมด อาทิ CS Loxinfo, Teleinfo Media, Rabbit Line Pay ฯลฯ ร่วมกันให้บริการและทำตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าองค์กร และการผนึกศักยภาพจากพันธมิตรด้านไอทีชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft, G-ABLE, SAP, VMware ฯลฯ ทำให้สามารถให้บริการ Digital Platforms และ Solutions หลากหลายด้าน ตั้งแต่ Network, Data Center, Cloud, Managed ICT Services, IoT, Payment ได้อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร ไม่ใช่เพียงเรื่องเครือข่ายเท่านั้น แต่ครอบคลุมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ Device, Platform, การออกแบบ Software และ Application, ระบบ Cloud Computing ระดับเวิล์ดคลาส, eSIM ที่พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ รวมทั้งที่เกี่ยวข้องในอีโคซิสเต็มทั้งหมด และยังสามารถ Customized โซลูชั่นส์ให้สอดคล้องกับแต่ละองค์กรในแต่ละอุตสาหกรรมได้ด้วย เหล่านี้ AIS Business พร้อมให้คำปรึกษากับทุกองค์กรที่สนใจนำเทคโนโลยีไปใช้ในการทำงาน”นายยงสิทธิ์กล่าว

บริการด้าน ICT ของ AIS Business ประกอบด้วยบริการหลักๆ ดังนี้

1.     บริการ Cloud & ICT เพื่อธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ

        ด้วยคุณภาพการให้บริการที่เหนือกว่าในทุกมิติ ภายหลังการซินเนอร์ยี่กับบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ เมื่อเดือนตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งบริการ Cloud ของเอไอเอสในทุกๆ ด้าน ทำให้มี DATA CENTER ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตามภูมิภาคต่างจังหวัด รวม 9 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบันเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการ Cloud ที่มี DATA CENTER ในไทยจำนวนมากที่สุด ซึ่งได้มาตรฐาน Carrier Grade Data Center เทียบชั้นระดับโลก มากไปกว่านี้ การที่เอไอเอสมีเครือข่ายคุณภาพ 3G, 4G, 4.5G และบริการสื่อสารข้อมูล (Enterprise Data Service) จึงทำให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กรได้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่า รวมถึงมีบริการ ICT Service ที่หลากหลายจากซีเอส ล็อกซอินโฟทั้งหมด ตลอดจนนำทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาร่วมให้บริการ Managed Network และ Managed ICT Services เหล่านี้ จึงสามารถให้บริการ Cloud ได้แบบ End-to-End Single Service Provider อย่างครบวงจร ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Platform, Software, Network, Security ไปจนถึง Managed Services ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรม ใช้ได้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงผู้ประกอบการ SME และ Startup

           นอกจากนี้ ยังออกบริการใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลก อาทิ

-         Data Analytics as a Service ร่วมกับ G-Able สำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการนำข้อมูล มาวิเคราะห์และบริหารจัดการข้อมูลบนระบบ Cloud ด้วยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Server ขนาดใหญ่ ในราคาที่ต่ำกว่า ยืดหยุ่นกว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอที ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การเพิ่มรายได้จากแผนการตลาดได้อย่างตรงจุด

-         SAP Business One ร่วมกับ SAP เพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ช่วยจัดการระบบงานขาย และระบบบัญชีแบบครบวงจร โดยมีจุดเด่นเพื่อ SME คือ ขึ้นระบบได้เร็ว สามารถขยายตัวเติบไปพร้อมกับธุรกิจได้ ประหยัดเวลาและงบประมาณด้าน Hardware

-        SD-WAN ร่วมกับ CISCO และ VERSA เทคโนโลยีบริหารจัดการเครือข่ายที่ล้ำหน้า โดยใช้ Software เป็นตัวกลางในการจัดการเครือข่ายทั้งหมดในจุดเดียว ทำให้การใช้งานร่วมกันกับเครือข่ายหลากชนิดพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นวงจรส่วนบุคคล, อินเทอร์เน็ต หรือ 3G/4G จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกันก็ทำได้อย่างง่ายดาย เป็นรายแรกในเมืองไทย

2.     บริการ IoT เชิงพาณิชย์

                โดยเอไอเอสเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่เปิดให้บริการโซลูชั่นส์ IoT เชิงพาณิชย์แล้ว กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำของประเทศ ด้วยศักยภาพของเครือข่าย IoT ทั้ง NB-IoT และ eMTC ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรความร่วมมือจากโครงการ AIAP (AIS IoT Alliance Program) ที่มีสมาชิกรวมกว่า 800 รายที่ร่วมกันสร้างสรรค์ IoT Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้เอไอเอสสามารถทำงานและต่อยอดความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการร่วมกันวิจัยและพัฒนา และการออกโซลูชั่นส์ด้าน IoT เพื่อประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจจริงๆ ตลอดจนการนำ IoT สนับสนุนนวัตกรรมสมาร์ทซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การคมนาคม คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่างโซลูชั่นส์ IoT

-         Smart Transportation สำหรับงานขนส่งคมนาคม โดยความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ NB-IoT Tracking บนรถตำรวจ

-         Smart Recognition ช่วยจดจำ ตรวจสอบ วัตถุ ยานพาหนะหรือบุคคลโดยกล้องวีดิโอ ามารถประยุกต์ใช้งานด้านความปลอดภัย และด้านการตลาด Customer Care

-         Smart Cold Chain ช่วยบริหารจัดการตู้แช่-ห้องเย็น โดยความร่วมมือกับบริษัท The Cool

-         Smart Health ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ

-         Smart Industrial Estate ช่วยบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ร่วมกับ อมตะนคร

3.     บริการ Digital Transformation Solutions

                แอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการองค์กรในลักษณะ Project-based ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละธุรกิจ อาทิ

-         Smart Retail ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่

-         Points & Privilege แพลทฟอร์มระบบสะสมคะแนน และสิทธิพิเศษของธุรกิจตนเอง

-         Robot-as-a-Service การให้บริการหุ่นยนต์พร้อมระบบควบคุม ให้องค์กรสามารถกำหนดพฤติกรรมหุ่นยนต์ การโต้ตอบ การให้ข้อมูล แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ

-         Smart Call ระบบสำหรับธุรกิจที่ต้องส่ง Agent ไปติดต่อลูกค้าเพื่อให้บริการที่ Site งาน

4.     บริการ Digital Payment Gateway

                พร้อมให้บริการเชื่อมต่อระบบชำระเงินของธุรกิจให้สามารถรองรับการชำระเงินแบบดิจิตอล โดยผสานศักยภาพของบริษัทในเครือ ทั้ง Rabbit LINE Pay และ mPAY ทำให้สามารถออกแบบโซลูชั่นส์ด้าน Payment ให้กับลูกค้าองค์กรได้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการ ICT รายอื่น

5.     บริการ Digital Marketing & Outsource Contact Center

     ด้วยประสบการณ์ของบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย (บริษัทในเครือ) พร้อมตอบโจทย์การทำการตลาดดิจิทัลให้กับธุรกิจ เช่น YellowPages eCommerce Platform, SEO, Email Marketing, Social Marketing, การทำเว็บไซต์ รวมถึงบริการ Outsource Contact Center สำหรับธุรกิจในการติดต่อลูกค้า ทั้งกรณีรับสายลูกค้าและโทรหาลูกค้า

      สำหรับ ลูกค้าองค์กรและเอสเอ็มอี ที่สนใจใช้บริการ AIS Business สามารถติดต่อได้ที่ ทีมงานของ AIS ที่ดูแลลูกค้าองค์กร, AIS Corporate Call Center 1149 หรือที่ business.ais.co.th

      “ด้วยขีดความสามารถของบุคลากรที่ได้พัฒนาความรู้และความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดิจิทัล ผสมผสานเข้ากับหัวใจบริการ และทัศนคติที่มุ่งช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตลอดจนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่บริหารงานอย่างมืออาชีพมาโดยตลอด ผมขอยืนยันและให้ความมั่นใจกับท่านลูกค้าองค์กรทุกกลุ่ม ทุกขนาด ว่า ท่านจะได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงสุด เป็นเลิศ และแตกต่างอย่างแน่นอน เราพร้อมอยู่เคียงข้าง สร้างโอกาสใหม่ๆ จากเทคโนโลยีดิจิทัล และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายสมชัย กล่าวสรุป

AIS Business announces its vision to be the leading and most-trusted ICT service provider

Digital solutions designed to strengthen all business types

     AIS Business, the corporate solutions arm of AIS, has announced its vision and policy to become the leading and most-trusted ICT service provider. AIS Business supports all types of enterprises as they prepare for growth and helps create new opportunities for all industries.

      Backed by the company’s strengths and the personnel of the group including CS Lox Teleinfo Media, Rabbit Line Pay, as well as partnerships with such global IT companies as Microsoft, G-Able, SAP and VMware, AIS Business is able to provide a full range of ICT services for all types of business from network, digital infrastructure, cloud to IoT, ICT and digital platform. AIS Business thus ensures that customer enterprises can optimize solutions and meet international standards. AIS Business is also fundamental in helping all business sectors benefit from the digital transformation and in creating new business landscapes.

Today, AIS is organizing the Digital Future 2019, a seminar and digital technology showcase, bringing experts and high-ranking executives from leading local and international organizations together to share their visions. Visitors can learn about the practical digital solutions designed for key industries in the country.

       Mr.Somchai Lertsutiwong, Chief Executive Officer, AIS, said: “Over the past 5 years, digital disruption has dramatically affected the way we live and do business. For the enterprises, it is a new great opportunity to transform into innovation organizations with sustainable growth. We're confident that in this era, enterprises must implement business transformation in 2 areas.

                1.Develop organizational management in 3 ways. The first is to improve key operating processes and turn them into digitizing core processes; the second is to change the delivery channel of customer services into a digitizing customer interface; and the last is to expand operations by scaling digital technology.

                2.Enhance operating processes through better customer understanding using big data and constantly introducing innovations.

                “We aim to transform our entire organization into a Digital Life Service Provider covering digital infrastructure, digital service and cultural transformation. Today, AIS is ready to enter into partnerships with all enterprises and industries taking them to the next level through a digital ecosystem that stems from our vision of being the most-trusted ICT service provider.

                Mr.Yongsit Rojsrikul, Chief Enterprise Business Officer, AIS, adds that AIS is now ready to be the most-trusted ICT service providing network resources and advanced technologies for enterprises under the AIS Business brand. This is in line with the company's determination to use its capacities, digital technology expertise and personnel with knowledge of and competency in technology to support business sectors and local enterprises for sustainable growth.

                In addition, AIS business will create new opportunities for doing business in the digital economy. AIS Business provides the country's most efficient digital infrastructure, namely

-Mobile network: AIS has the biggest mobile spectrum service in Thailand and is the biggest provider of a major spectrum for 4G service.

-Fixed Broadband: AIS Fiber is the country's first high-speed internet broadband service provider with the fiber optics network now covering more than 50 provinces nationwide.

-IoT network: AIS is the first and only operator to provide both eMTCand NB-IoT networks covering all 77 provinces.

Furthermore, AIS offer technological innovations and digital services by synergizing strengths across the company and human resources such as CS Lox, Teleinfo Media, Rabbit line Pay, working closely with them to provide services and creating marketing activities to optimize benefits. In addition, AIS partners with the global leading IT providers including Microsoft, G-Able, SAP, and VMware allowing it to provide a full range of platforms and solutions from network, data center, cloud, managed ICT services, IoT, and payments. Services cover the entire operating process from devices, platforms, software designs and applications, the world-class cloud computing system and eSim which is compatible with all devices.

In addition, AIS offers customized solutions to meet the needs of each enterprise across all industries. AIS is on hand to offer advice to enterprises that are interested in deploying technologies for their operations, Mr. Yongsit adds.

Major ICT services of AIS Business are as follows:

1. A full range of Cloud & ICT service for business

The synergy with CS Loxinfo in October 2017 has reinforced AIS and allowed for it to have the highest number of data centers that meet the international "Carrier Grade" standard. The company provides superior cloud service quality with 9 data centers in Bangkok, its vicinities and the provinces. Moreover, AIS has quality 3G, 4G, 4.5G networks and Enterprise Data Service. As a hub of ICT networks, the connection between AIS and enterprise networks is more efficient and effective.

The ICT services of CS Loxinfo and the teaming up of AIS and Loxinfo professionals in providing a managed network and ICT service enable AIS to offer customers the Cloud End-to-End Single Integrated Service covering cloud infrastructure, platform, software, network, security and managed services to meet the needs of all industries. The ICT Service is suitable for public and private organizations from large-scale enterprises to SMEs and startups.

Moreover, AIS partners with the global cloud service providers to introduce new cloud services. These include:

-AIS partners with G-Able to provide DATA Analytics as a service for enterprises that place importance on adopting Big Data for data analysis and management of a cloud system. It offers the same efficiency as a large server, but at a lower cost and with greater flexibility, enabling the enterprise to save on IT costs and design the right marketing strategy to generate revenue.

-AIS partners with SAP to provide SAP Business One for SMEs. This offers an integrated system to help manage sales and accounting systems in line with Revenue Department regulations. The strong points for SMEs are fast system installation, expansion following business growth, and time and hardware budget savings.

-AIS partners with CISCO and VERSA Technology to provide SD-WAN, an advanced network management by using software as a medium to manage all networks with a single point. AIS is the first company in Thailand that enables various types of network to easily work together including personalized circuit, internet or 3G/4G from different service providers.

2. Commercial IoT service. AIS is the first and only company to provide a commercial IoT solutions service to leading public and private organizations. Thanks to the capability of IoT networks NB-IoT and eMTC with their nationwide coverage, and the collaborative network AIAP (AIS IoT Alliance Program) with its 800 members working together to create an IoT Ecosystem in Thailand, AIS to continuously able to extend the collaboration and carry out research & development to come up with design solutions that can be applied to the broad business sector as well as adopt IoT to support smart city innovations including healthcare, environment, transportation and quality of living for sustainable development. The IoT solutions include:

-Smart Transportation: AIS is partnering with Metropolitan Police Division 1 to fit NB-IoT Tracking devices to police bikes.

-Smart Recognition: A video to memorize, verify objects, vehicles or persons. The video can be applied for both security and customer care.

-Smart Cold Chain: AIS partners with The Cool to deliver cold storage management service

-Smart Health: AIS partners with Samitivej to meet the needs of medical care services

-Smart Industrial Estate: AIS teams up with Amata Nakorn Industrial Estate to manage the internal area of the industrial estate.          

3. Digital Transformation Solution: Applications and platforms for enterprise management in terms of project-based solutions for customer needs, including

-Smart retail to develop a new shopping experience model

-Points & Privilege: A platform to collect points and privileges of your own business

-Robot-as-a-Service: Robotic service with a control system that enables the enterprise to set the robotic behavior to respond and give information to customers.

-Smart Call: A system for enterprises that send their agents out to customers to provide service at a project site.

                4. Digital Payment Gateway: AIS is ready to provide solutions for connecting with systems that support digital payments. With the potential of AIS subsidiaries Rabbit LINE Pay and mPAY, AIS can design the payment solutions for enterprises. This is a highlight of the service and helps AIS stand out from other ICT service providers.

                5. Digital Marketing & outsource Contact Center: With the experience of its subsidiary Teleinfo Media, AIS is ready to support businesses in creating digital marketing such as yellow pages, eCommerce platform, SEO, email marketing, social marketing, website design, and outsourcing contact center.

                Enterprise customers and SMEs interested in AIS Business are invited to contact AIS Corporate Customer division or AIS Corporate Call Center 1149 or visit www.business.ais.co.th  

                "Thanks to the capability of human resources who have technology knowledge and expertise combined with a service-minded attitude to help accommodate customers as well as the company's determination to conduct business through professional management, we ensure that all types and all sizes of businesses obtain quality and superb service. We will help create new opportunities through digital technology and grow together sustainably,” Mr. Somchai concludes.

รายละเอียดโซนจัดแสดง (Exhibition Zone)

ภายในงาน AIS Business : THE DIGITAL FUTURE 2019

                โซนจัดแสดง (Exhibition Zone) ภายในงาน 'AIS Business : THE DIGITAL FUTURE 2019'จัดขึ้นภายใต้ธีม “Transformation is now” โดยจัดแสดงนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยเสริมศักยภาพในการปรับธุรกิจองค์กรให้ก้าวไปสู่การแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ซึ่งประกอบด้วยโซนย่อย 5 โซน ดังนี้

1. AIS IoT Zone

พบกับนวัตกรรม และโซลูชั่น IoT พร้อมตัวอย่างการใช้งานที่สามารถนำไปประยุกต์ได้กับธุรกิจจริงในหลายรูปแบบ อาทิ

•              Smart Transportation โซลูชั่นสำหรับงานขนส่งในภาคธุรกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการตรวจสอบ ด้วยอุปกรณ์ IoT และเครือข่ายรูปแบบใหม่ เช่น

- อุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ และตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถ พร้อมเปิด Wifi Hotspot ส่วนตัว ที่ติดตั้งง่ายๆ ผ่านพอร์ท OBD II อุปกรณ์รองรับเครือข่าย 4G และสามารถใช้งานตรวจสอบข้อมูลได้ผ่าน Web หรือ Mobile Application

- อุปกรณ์ NB-IoT Tracking สำหรับตรวจสอบติดตามรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ขนาดเล็ก ราคาประหยัด สามารถตรวจสอบความเร็ว และตำแหน่งด้วยระบบ GPS ป้องกันการขโมยด้วยการกำหนด Geo-Fencing ใช้งานง่ายผ่าน Mobile Application

- ตัวอย่างการใช้ Solution อัจฉริยะ ในรถ Smart Taxi ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย การชำระเงินรูปแบบใหม่ และการต่อยอดบริการบนรถสาธารณะ

•              Smart City โซลูชั่นสำหรับเมืองอัจฉริยะ ที่เพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการเมือง ประยุกต์ใช้ได้กับทุกกลุ่มธุรกิจทั้งอาคาร และพื้นที่สำนักงาน

- แพลทฟอร์มสำหรับค้นหา และจองที่จอดรถ Smart Parking สร้างประสบการณ์ใหม่ ในการค้นหาจุดจอดรถผ่าน Mobile Application พร้อมจองจุดจอดรถได้ทันที พร้อมอุปกรณ์ Smart Gate ที่จะเปิดขึ้นเพื่อกั้น และปิดลงเพื่อให้รถที่ได้รับอนุญาตเข้าจอดในจุดจอด

- เสาไฟฟ้าอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว และเปิด ปิดไฟตามความเหมาะสม เพื่อประหยัดพลังงาน และยังใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ พร้อมทั้งความสามารถในการควบคุมและบริหารจัดการจากส่วนกลาง

- ระบบตรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า เช่นไฟฟ้ารั่ว ไฟลัดวงจร และวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้า เหมาะสำหรับที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน สามารถติดตั้งง่ายๆ โดยไม่ต้องตัดต่องานระบบไฟฟ้า รายงานการใช้ไฟฟ้าผ่าน Mobile Application หรือ Web Application สามารถประยุกต์ใช้กับการวัดการใช้ไฟฟ้าเฉพาะจุดที่ต้องการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เป็นต้น

- อุปกรณ์วัดและควบคุมปริมาณการใช้น้ำ สามารถตรวจสอบน้ำรั่วซึม หรือเปิดปิดวาล์วน้ำได้ระยะไกล อุปกรณ์ใช้พลังงานต่ำบนเครือข่าย NB-IoT ไม่ต้องวางสายระบบไฟฟ้า เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้าน อาคาร หรือที่พักอาศัยอาคารชุด รายงานการใช้น้ำได้ทันทีผ่าน Web Application และยังสามารถต่อยอดเชื่อมต่อกับ Platform การบริหารจัดการส่วนกลางของอาคาร

- เพิ่มความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย ด้วย Locker อัจฉริยะ สามารถนำไปติดตั้งได้ทุกพื้นที่ อำนวยความสะดวกทั้งผู้ใช้บริการ ใช้เพียง QR code ในการฝากและรับของ และต่อยอดการเพิ่มธุรกิจให้เจ้าของพื้นที่ สามารถ Platform กับระบบชำระเงินได้

•              Smart Recognition โซลูชั่นที่ช่วยจดจำ ตรวจสอบ และแยกแยะวัตถุ ยานพาหนะ หรือบุคคลได้โดยใช้กล้องวีดีโอ สามารถประยุกต์การใช้งานได้ทั้งด้านความปลอดภัย และเสริมความสามารถด้านธุรกิจ โดยมีความสามารถเด่น อาทิ

- อ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้าออกประตูในพื้นที่ต่างๆ

- ระบุประเภท รุ่น สี ของยานพาหนะ

- ระบุและจดจำใบหน้า ของบุคคล

โดย Platform สามารถนำข้อมูลเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเงื่อนไข เช่น การทำ Smart Gate ที่อนุญาต เฉพาะบุคคลที่ขับรถทะเบียนตามที่ระบุไว้เท่านั้น

•              Smart Cold Chain โซลูชั่นที่ช่วยในงานบริหารจัดการตู้แช่ ห้องเย็น โดยอุปกรณ์ IoT สามารถตรวจวัดอุณหภูมิของตู้แช่ ติดตั้งง่าย ใช้พลังงานน้อยผ่านเครือข่าย NB-IoT พร้อม Platform ในการบริหารจัดการเพื่อยืนยันคุณภาพสินค้าที่อยู่ในตู้แช่ ประยุกต์ได้กับทุกธุรกิจที่ต้องการระบบบริหารจัดการห้องเย็น

•              Smart Kiosk ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ระบบ IoT ในอุปกรณ์เครื่องหยอดเหรียญ ทั้งเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ เก้าอี้นวด และตู้จำหน่ายสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ ที่วางกระจายทั่วประเทศ และยังสามารถบริหารจัดการการเก็บเหรียญอย่างมีประสิทธิภาพด้วย นอกจากนั้น ยังเพิ่มขีดความสามารถในการชำระเงินด้วยระบบ Mobile Wallet ด้วย

•              Smart Health ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ ด้วยโซลูชั่นจากโรงพยาบาลสมิติเวช ผ่านโครงสร้างพื้นฐานและ Platform จาก AIS ให้ท่านได้มีประสบการณ์ใหม่ที่สะดวกสบายมากขึ้น เข้าใกล้กับบริการสุขภาพตลอดเวลา แม้อยู่ที่บ้าน

•              Smart Industrial Estate โซลูชั่น IoT ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งด้านความปลอดภัย การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน รวมถึงโซลูชั่นเฉพาะในงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่องมือ Sensor วัดระดับน้ำ ใช้พลังงานต่ำผ่านเครือข่าย NB-IoT, สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นต้น ซึ่งพร้อมประยุกต์กับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม

•              Smart Living โซลูชั่นสำหรับที่พักอาศัย ด้วย Platform ที่มีความร่วมมือจาก Partner ต่างๆ ในการสร้างความสามารถใหม่ๆ ให้กับ Smart Living Application เช่น การควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์ Security การเรียกใช้บริการ Home Service ต่างๆ การชำระค่าบริการต่างๆ หรือการพัฒนา Application เฉพาะเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

•              IoT Global Connectivity Platform โซลูชั่นระดับโลก สำหรับการควบคุมการเชื่อมต่อ (Connectivity) ของอุปกรณ์ IoT เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการใช้งานอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก หรือพัฒนาและผลิตอุปกรณ์จำหน่ายสินค้าไปต่างประเทศ โดย Platform นี้จะช่วยให้ท่าน สามารถผลิตสินค้า IoT ที่มี embedded SIM (eSIM) และนำไปเปิดใช้งานในเครือข่ายต่างๆ ได้ทั่วโลก

•              AIAP (AIS IoT Alliance Program) เครือข่ายที่เปิดกว้างสำหรับทุกภาคส่วนใน Ecosystems ของการพัฒนา IoT ที่พร้อมทั้งเครือข่าย Platform พร้อมตัวอย่าง IoT Solutions ที่เกิดขึ้นจาก Partner และ สมาชิกใน AIAP

2. AIS Business Cloud Zone

AIS Business Cloud เจาะลึกเรื่องการนำเทคโนโลยี Cloud มาใช้ประโยชน์ในองค์กร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และสนับสนุนการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Business Transformation) อย่างแท้จริง โดย AIS ได้ยกระดับการให้บริการเทคโนโลยี Cloud ที่หลากหลาย แบบ End-to-End ซึ่งได้มาตรฐานและความปลอดภัยระดับโลก

•              Network for Business >> SD-WAN เทคโนโลยีบริหารจัดการเครือข่ายที่ล้ำหน้า ด้วยการใช้แนวคิดแบบ SDN (Software-Defined Networking) ที่ใช้ซอฟท์แวร์เป็นตัวกลางในการจัดการเครือข่ายทั้งหมดในจุดเดียวทำให้สามารถควบคุมตรวจสอบทุกอย่างได้จากส่วนกลาง ทั้งยังช่วยบริหารจัดการคุณภาพของเครือข่ายทั้งเส้นหลักและสำรองตามประเภทของการใช้งานแอปพลิเคชันได้อัตโนมัติ ทำให้การใช้งานร่วมกันกับเครือข่ายหลากชนิดพร้อมกันไม่ว่าจะเป็นวงจรส่วนบุคคล อินเตอร์เนท หรือ 3G/4G จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกันก็ทำได้อย่างง่ายดาย และนี่จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีผู้ให้บริการ SD-WAN ครบวงจรตั้งแต่อุปกรณ์ โครงข่ายคุณภาพที่มีทุกรูปแบบการใช้งาน และบริการ professional managed service ที่ช่วยดูแลตั้งแต่การติดตั้งจนถึงใช้งานจริง ซึ่งในงานนี้จะได้พบกับการจำลองการใช้งานด้วยเครื่องจริง และผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยตอบทุกคำถามสำหรับการนำ SD-WAN ไปประยุกต์ใช้งานในองค์กร

•              Data Center บริการให้เช่าพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ที่ออกแบบตามมาตรฐาน Tier-4 และได้มาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001:2013 และมาตรฐาน ISO 23001รวมถึงการให้บริการวงจรเชื่อมโยงทั้งภายในและต่างประเทศแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้ลูกค้าองค์กรตลอดจนลูกค้า SME สามารถลดต้นทุนในการจัดเตรียมระบบสนับสนุนด้านไอทีและบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าองค์กรที่มีเพิ่มขึ้น AIS จึงได้ร่วมกับ CS LOXINFO เพื่อเสริมศักยภาพในการให้บริการ Data Center ทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ออกไปยังภูมิภาคต่างจังหวัด รวมเป็น 9 แห่ง ประกอบด้วย AIS Data Center จำนวน 6 แห่ง และ CS LOXINFO Data Center อีก 3 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบัน AIS เป็นผู้ให้บริการ Cloud ที่มี Data Center ในไทยจำนวนมากที่สุด

•              AIS Enterprise Cloud & Back up on Cloud สำหรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการย้ายระบบขึ้น Cloud และต้องการศูนย์ข้อมูลที่อยู่ในไทย เพื่อความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูล AIS มีบริการ AIS Enterprise Cloud ซึ่งเป็นบริการ Local Cloud Infrastructure บน Platform VMware NSX การันตีในเรื่องของความปลอดภัยและความพร้อมในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐาน ISO 27001 และ CSA-STAR รวมถึงบริการหลังการขายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่นสำหรับการสำรองข้อมูลพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ AIS ได้ร่วมมือกับ Veeam เพื่อให้บริการ Backup on cloud เพื่อให้บริการสำรองข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นสูงและปลอดภัย รองรับความต้องการที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยในปีนี้ AIS ได้เปิดตัวบริการใหม่ เพื่อปกป้องและจัดการข้อมูลบน Office 365 อย่างสมบูรณ์แบบด้วยบริการ Backup on Cloud for Microsoft Office 365 เพื่อช่วยให้องค์กรที่ใช้บริการ Office 365 สามารถสำรองข้อมูลทั้งในส่วนของ Office 365 Exchange Online, SharePoint Online และ OneDrive for Business อีกทั้งยังสามารถกู้ข้อมูลแบบเจาะจงได้ตามที่คุณต้องการ

•              Professional ICT Service from CS LOXINFO ด้วยประสบการณ์ของทีมงาน CS Loxinfo กว่า 20 ปีในการให้บริการ ICT แก่องค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งการให้คำปรึกษา ประเมิน และติดตั้งบริการ (กลุ่มบริการตามด้านล่าง) ให้ตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงการดูแลระบบให้หลังการขาย (Managed Service)

- Cloud on Premise : ระบบ Private คลาวด์ติดตั้งให้ในพื้นที่ของลูกค้า

- Firewall on Premise : บริการระบบ Firewall ติดตั้งในพื้นที่ของลูกค้าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ระบบ

IT ภายในองค์กร

- Network Service : บริการด้านเครือข่ายทั้งภายในองค์กรและระหว่างสาขา รวมถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต

ขององค์กร

- Cloud Service : บริการที่ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานระบบ IT โครงสร้างพื้นฐานและแพลทฟอร์ม (Infrastructure & Platform) บนคลาวด์ได้โดยไม่ต้องลงทุน

- Security Service : บริการด้านความปลอดภัยแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานระบบ IT

ขององค์กร

เข้าใจระบบไอที ด้วยประสบการณ์กว่า20 ปี ส่งเสริมศักยภาพ ให้องค์กรชั้นนำ ก้าวผ่านปัญหาไอทีอย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจ CS LOXINFO

•              Microsoft Azure ในงานนี้ AIS ได้แสดงศักยภาพของทีมงานในด้านการพัฒนา Application บนระบบ Microsoft Azure โดยได้นำนวัตกรรมเชื่อมโลกจริงและเสมือนจริงอย่าง ‘Mixed Reality (MR)’ ซึ่งเป็นการผสานจุดเด่นของเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้าด้วยกัน โดยผู้ใช้หรือลูกค้าจะต้องสวมอุปกรณ์ Holographic Computing Devices ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่ทำให้เกิดสภาวะเสมือนจริงหรือภาพ Hologram ซึ่งในงานจะจำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศของห้องตัวอย่างแบบ Interactive ด้วยฟังก์ชันในการออกแบบและปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างได้ในหลายมุมมอง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

•              Data Analytics as a Service AIS ได้ร่วมกับ G-Able เพื่อนำเสนอโซลูชั่นในการให้บริการ Data Analytics as a Service สำหรับองค์กรที่เล็งเห็นความสำคัญของข้อมูลปริมาณมหาศาลที่องค์กรมีอยู่ นำมาวิเคราะห์และแปลงเป็นกลยุทธ์ที่สามารถเพิ่มรายได้จากแผนการตลาดได้อย่างตรงจุด ด้วยการให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจร โดยที่องค์กรไม่ต้องกังวลในเรื่องของระบบในการประมวลผล เนื่องจากบริการนี้จะให้บริการตั้งแต่ระบบบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลบนระบบ Cloud ที่ทรงประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอที พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกระดับ

•              Zone Cyber Security Solutions

- Network & Infrastructure Security : AIS ได้ร่วมกับ Partner ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยระดับโลกอย่าง PaloAlto และFortinet ให้บริการปกป้องความปลอดภัยตั้งแต่ระบบเครือข่าย เพื่อให้ทุกการเชื่อมต่อมีความปลอดภัย และยังสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ไฟร์วอลล์ทั้งหมดของระบบได้แบบรวมศูนย์ เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูล และยังเสริมความปลอดภัยบนระบบปฏิบัติการ ด้วยความสามารถในการตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ รวมไปถึงการประเมินช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบริการจาก Check Point CloudGuard และ Symantec Cloud Security

- Application Security : นอกเหนือจากบริการที่ช่วยปกป้องในส่วนของ Network, System ของลูกค้า AIS ยังได้ร่วมกับ Cloudflare เพื่อให้บริการที่ช่วยปกป้องเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ด้วยระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่จะโจมตีมายังเว็บแอปพลิเคชัน และบริการ Secured Mail Gateway ที่ร่วมกับ Cisco เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากสิ่งที่แฝงมากับอีเมล์

- Endpoint/ Mobile Security : AIS จับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง Mobile Iron, Samsung KNOX, IBM MaaS360 พร้อมเปิดตัวพาร์ทเนอร์รายใหม่ Workspace One จาก VMware นำเสนอบริการ AIS Enterprise Mobility Management พร้อมสาธิตการใช้งาน และการบริหารจัดการ ที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการและควบคุมความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ ที่ใช้งานอยู่ภายในองค์กร เพื่อให้การใช้งานดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

•              SME Solutions

- Office 365 : ในงานนี้ AIS ได้นำความสามารถใหม่ๆของ Office 365 มาสาธิต เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางปรับปรุงการทำงานเป็นทีมและสร้างธุรกิจของตนเองได้ ซึ่งมาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษร่วมกับ Microsoft เปิดตัว Surface Pro LTE รุ่นที่สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มธุรกิจและผู้ประกอบการยุคใหม่ ซึ่งจะมาในรูปแบบของแพ็กเกจรายเดือน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,599 บาท สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ในงาน รับของแถมสุดคุ้ม ทั้ง Surface Pro Type Cover Black, Surface Pen พร้อมการรับประกันสินค้านาน 3 ปี รวมมูลค่ากว่า 13,800 บาท นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครแพ็กเกจ Office 365 Business Essentials ภายใน 31 ธ.ค. 2561 รับส่วนลดสูงสุดกว่า 50%

- SAP Business One : สำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่กำลังเริ่มต้นนำระบบ ERP เข้ามาใช้งานในธุรกิจของตน แต่ไม่มีทีมงานดูแลระบบ IT และต้องการ ERP ที่มีมาตรฐานระดับสากลในราคาที่ไม่สูง AIS ได้ร่วมมือกับ SAP เปิดตัวบริการใหม่! SAP Business One โปรแกรมที่ใช้แนวคิดของ ERP ในการจัดการระบบงานของธุรกิจให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ อย่างรวดเร็ว และผู้บริหารสามารถดูข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลสถานะของบริษัทได้แบบทันที โดยทำหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพยากรขององค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมบริการให้คำปรึกษา ติดตั้ง และดูแลระบบด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

- Digital Marketing & Outsourced Contact Center : ด้วยประสบการณ์ของบริษัท Teleinfo MEDIA (บริษัทในเครือ AIS) ซึ่งมีฐานข้อมูลของลูกค้าธุรกิจจากการให้บริการ YellowPages ในอดีต วันนี้ในยุคดิจิตอล YellowPages ได้เปลี่ยนรูปแบบมาให้บริการบน online ให้บริการกลุ่ม Digital & Media Solutions ที่หลากหลาย พร้อมตอบโจทย์การทำ Digital Marketing ของธุรกิจซึ่งประกอบด้วย YellowPages eCommerce Platform, SEO, Email Marketing, Social Marketing รวมถึงการทำ website สำหรับแสดงรายละเอียดและสินค้าของบริษัท

นอกจากนี้ Teleinfo MEDIA ยังมีบริการ Outsourced Contact Center สำหรับธุรกิจในการติดต่อลูกค้า ทั้งกรณีรับสายลูกค้า (Inbound เช่น สอบถามข้อมูลหรือการใช้งาน, รับคำสั่งซื้อสินค้าหรือเรื่องร้องเรียน เป็นต้น) และกรณีโทรหาลูกค้า (Outbound เช่น นำเสนอสินค้า สอบถามความพึงพอใจ เป็นต้น) รวมถึงการช่วยบริหารจัดการช่องทาง Online เช่น ตอบคำถาม หรือรับคำสั่งซื้อบน LINE ของลูกค้า เป็นต้น)

•              Office Anywhere ซอฟท์แวร์ด้านสำนักงานสำหรับธุรกิจทุกประเภท พร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ server ใดๆ เพียงสมัครบริการจาก ADV (บริษัทในเครือ AIS) ทีมงานจะจัดเตรียมระบบให้พร้อมสำหรับการใช้งานของพนักงาน ซึ่งรองรับบนสมาร์ทโฟน ช่วยให้สามารถเข้ามาใช้งานได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร

1. TIME ATTENDANCE ระบบบันทึกเวลาทำงาน รองรับทั้งกรณีใน / นอกสำนักงาน และการทำงานแบบเป็นกะ

2. LEAVE ONLINE ระบบอนุมัติลางาน สามารถกำหนดวันหยุด และผู้อนุมัติได้

3. MEMO ONLINE ระบบส่งบันทึกขออนุมัติ สามารถกำหนดสิทธิ์อนุมัติ แจ้งเตือนสถานะได้

4. RESERVATION ระบบเบิก ยืม จอง ทรัพย์สินบริษัท กำหนดทรัพย์สินกลาง และแจ้งเตือนสถานะการยืมได้

5. VERK ระบบแชทสำหรับบริษัท มีความเป็นส่วนตัวขององค์กร ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ทราบได้ว่าใครอ่านข้อความ

3. Digital Payment Zone

     ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน Digital Payment จริงได้ที่บูธ Black Canyon และ McDonald โดย AIS ได้ทำการเชื่อมต่อบริการ Payment Gateway (by mPAY) ให้กับ Black Canyon เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้กระเป๋าเงิน WeChat, PromptPay, Rabbit LINE Pay ชำระเงินค่าเครื่องดื่มจาก Black Canyon ได้ในราคาสุดพิเศษเพียงแก้วละ 1 บาท ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ยุค Cashless Society

        นอกจากนี้ ที่บูธ McDonald ทาง Rabbit LINE Pay ได้จัดเตรียม Digital Coupon ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริงบนแอปพลิเคชัน LINE แลกรับพาย McDonald ได้ ซึ่งเป็นตัวอย่างการทำ marketing ในยุคดิจิตอลที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดผ่านระบบ Digital Payment ของ Rabbit LINE Pay ได้

4. Device Zone

       ในโลกของการทำธุรกิจยุคดิจิตอล สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ อุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ซึ่งจะเป็น enabler ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการทำงานแบบดิจิตอลเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรได้เต็มที่ ในงานนี้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเบล็ตชั้นนำ ได้แก่ Databar, Nokia, RugGear, Samsung และ Xiaomi ได้นำอุปกรณ์เคลื่อนที่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาร่วมแสดงในงานนี้ ให้ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกชม ทดลองใช้งาน เพื่อเป็นแนวคิดในการต่อยอดสู่ธุรกิจยุคดิจิตอลต่อไป

5. Digital Transformation Solution – Consultancy Zone

        ในยุค Digital Transformation ที่หลายบริษัทถูกกระแส Disruption ถาโถมเข้ามา, AIS เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการ ICT ได้ AIS จึงนำประสบการณ์ และทรัพยากรดิจิตอลที่มีอยู่ มาแบ่งปันและพัฒนา Digital Solution, Digital Platform ที่มีความสามารถหลากหลาย เพื่อช่วยให้องค์กร transform ได้ในรูปแบบของแต่ละอุตสาหกรรม เช่น Smart Retail, Smart Call เป็นต้น

       ยิ่งไปกว่านั้น AIS ได้ให้ความสำคัญกับการสร้าง Ecosystem เปิดรับ partner จากองค์กรธุรกิจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์และพัฒนาแต่ละอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆ กัน

ข้อความ Twitter

                #AISBusiness ประกาศวิสัยทัศน์สู่ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร-Most Trusted ICT Service Provider สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าองค์กรทุกขนาด รองรับการเติบโต และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกอุตสาหกรรม ในยุค #DigitalTranformation

                #AISBusiness ผนึกศักยภาพบริษัทในเครือ CS LOX, Teleinfo Media, Rabbit Line Pay และพันธมิตรชั้นนำระดับโลก Microsoft, G-ABLE, SAP, VMware ฯลฯ พร้อมให้บริการ ICT เต็มรูปแบบ ครอบคลุมตั้งแต่ Network,DATA Center,Cloud, IOT,Payment ด้วยมาตรฐานเวิล์ดคลาส พร้อมให้คำปรึกษากับทุกองค์กร

                #AISBusiness ซินเนอร์ยี่กับ CS LOX เสริมแกร่งบริการ #Cloud ในทุกๆด้าน ทำให้มี DATA Center ในไทยจำนวนมากที่สุด ถึง 9 แห่ง ทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตลอดจนนำทีมงานของทั้ง2บริษัทร่วมให้บริการ Managed Network, Managed ICT Service ครบวงจร  

                #AISBusiness ให้บริการ #IoT เชิงพาณิชย์แล้วกับองค์กรต่างๆ อาทิ Smart Transportation ร่วมกับตำรวจนครบาล,Smart Cold Chain ช่วยบริหารจัดการตู้แช่, Smart Health ร่วมกับ รพ.สมิติเวช ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ, Smart Industrial Estate บริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ร่วมกับ อมตะนคร

                #AISBusiness ดึงจุดแข็งบริษัทในเครือ Rabbit LINE Pay และ mPAY ให้บริการโซลูชั่นส์ด้าน Payment เชื่อมต่อระบบชำระเงินของธุรกิจให้รองรับการชำระเงินแบบดิจิทัล ตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค #CashlessSociety